เหล็กรูปพรรณใช้ทำอะไรได้บ้าง

เหล็กรูปพรรณ

เหล็กรูปพรรณคือเหล็กชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูปเป็นรูปทรงต่างๆ ให้เหมาะสมกับการงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน เหล็กรูปพรรณมีอยู่หลายประเภท ตามรูปแบบของหน้าตัด และกระบวนการผลิต เช่น เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น เหล็กรูปพรรณรีดร้อน เหล็กรูปพรรณเชื่อมประกอบ เป็นต้น เหล็กรูปพรรณมีความทนทานแข็งแรง สามารถรองรับต่อการสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวได้ดี มีความยืดหยุ่นในด้านของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และสามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้สะดวก ถ้าคุณต้องการดูตารางเหล็กรูปพรรณมาตรฐานในไทย และมาตรฐานทั่วไป


การผลิตเหล็กรูปพรรณ

การผลิตเหล็กรูปพรรณเป็นกระบวนการที่นำเหล็กหรือเหล็กกล้ามาแปรรูปเป็นรูปทรงต่างๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน มีวิธีการผลิตอยู่สองแบบคือ การรีดร้อน (hot-rolling) และการรีดเย็น (cold-rolling) โดยแต่ละวิธีจะมีข้อดีข้อเสียและคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกัน

การรีดร้อนคือการนำเหล็กหรือเหล็กกล้าที่มีอุณหภูมิสูง (ประมาณ 900-1200 °C) มาผ่านลูกกลิ้งที่มีความร้อนต่ำกว่า เพื่อให้เหล็กมีขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการ เหล็กรูปพรรณที่ผ่านการรีดร้อนจะมีความแข็งแรงสูง แต่จะมีความแม่นยำของขนาดและความเรียบไม่สูง เหล็กรูปพรรณชนิดนี้ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไป เช่น เหล็กเอชบีม เหล็กไอบีม เหล็กราง เหล็กรีด เป็นต้น

การรีดเย็นคือการนำเหล็กรูปพรรณที่ผ่านการรีดร้อนแล้ว มาผ่านกระบวนการทำให้เย็นด้วยอุณหภูมิห้อง แล้วผ่านการรีดอีกครั้ง เพื่อให้เหล็กมีขนาดและความแข็งแกร่งที่สูงขึ้น เหล็กรูปพรรณที่ผ่านการรีดเย็นจะมีความแม่นยำของขนาดสูง แต่จะมีความยืดหยุ่นไม่สูง เหล็กรูปพรรณชนิดนี้ใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแกร่งสูง เช่น เหล็กฉาก เหล็กซี่โค้ว เหล็กสี่เหลี่ยม เป็นต้น


ความแตกต่างของเหล็กรูปพรรณ และ เหล็กโครเมียม

เหล็กรูปพรรณ และ เหล็กโครเมียม เป็นเหล็กชนิดที่มีความแตกต่างกันทั้งในส่วนผสม กระบวนการผลิต และการใช้งาน ดังนี้

  • เหล็กรูปพรรณ เป็นเหล็กที่ผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูปเป็นรูปทรงต่างๆ ให้เหมาะสมกับการงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน เหล็กรูปพรรณมีอยู่หลายประเภท ตามรูปแบบของหน้าตัด และกระบวนการผลิต เช่น เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น เหล็กรูปพรรณรีดร้อน เหล็กรูปพรรณเชื่อมประกอบ เป็นต้น เหล็กรูปพรรณมีความทนทานแข็งแรง สามารถรองรับต่อการสั่นสะเทือนที่เกิดจากแผ่นดินไหวได้ดี มีความยืดหยุ่นในด้านของการออกแบบทางสถาปัตยกรรม และสามารถใช้งานในพื้นที่แคบได้สะดวก
  • เหล็กโครเมียม เป็นเหล็กที่มีส่วนผสมของโครเมียมไม่น้อยกว่า 10.5% ของน้ำหนัก เพื่อให้เหล็กมีความต้านทานการกัดกร่อนได้ดี เหล็กโครเมียมจึงเป็นชื่ออื่นของเหล็กกล้าสแตนเลส (stainless steel) ซึ่งเป็นเหล็กที่ผ่านกระบวนการผสิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน (carbon steel) โดยการเพิ่มโครเมียม และธาตุอื่นๆ เช่น ไททัน เจ้า (molybdenum) ไฮโดรเจิน (hydrogen) เข้าไป เหล็กโครเมียมใช้ในงานที่ต้องการความสะอาดและความงาม เช่น ใช้ทำเครื่องประดับ ภาชนะทำอาหาร หรือส่วนประกอบของเครื่องจักร

ข้อสังเกต

  • เหล็กรูปพรรณไม่ได้จำเป็นต้องมีโครเมียมในส่วนผสม
  • เหล็กรูปพรรณไม่ได้ผ่านกระบวนการผสิตจากเหล็กกล้าคาร์บอน
  • เหล็กรูปพรรณมีรูปทรงและขนาดที่หลากหลาย แต่เหล็กโครเมียมมีรูปทรงและขนาดที่จำกัด
  • เหล็กรูปพรรณใช้ในงานโครงสร้างและสถาปัตยกรรม แต่เหล็กโครเมียมใช้ในงานที่ต้องการความสะอาดและความงาม

เหล็กรูปพรรณมีอะไรบ้าง

เหล็กรูปพรรณมีอะไรบ้าง 

เหล็กรูปพรรณคือเหล็กชนิดหนึ่งที่ผ่านกระบวนการผลิตและแปรรูปเป็นรูปทรงต่างๆ ให้เหมาะสมกับการงานแต่ละประเภท และช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในด้านการใช้งาน เหล็กรูปพรรณมีอยู่หลายประเภท ตามรูปแบบของหน้าตัด และกระบวนการผลิต เช่น

  • เหล็กรูปพรรณขึ้นรูปเย็น (cold-formed steel) เป็นเหล็กที่ผ่านการรีดเย็นจากเหล็กรูปพรรณที่ผ่านการรีดร้อนแล้ว เพื่อให้เหล็กมีขนาดและความแข็งแกร่งที่สูงขึ้น เหล็กรูปพรรณชนิดนี้มีความแม่นยำของขนาดสูง แต่จะมีความยืดหยุ่นไม่สูง เหล็กรูปพรรณชนิดนี้ใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแกร่งสูง เช่น เหล็กฉาก เหล็กซี่โค้ว เหล็กสี่เหลี่ยม เป็นต้น
  • เหล็กรูปพรรณรีดร้อน (hot-rolled steel) เป็นเหล็กที่ผ่านการรีดร้อนจากเหล็กหรือเหล็กกล้าที่มีอุณหภูมิสูง (ประมาณ 900-1200 °C) เพื่อให้เหล็กมีขนาดและรูปทรงตามที่ต้องการ เหล็กรูปพรรณที่ผ่านการรีดร้อนจะมีความแข็งแรงสูง แต่จะมีความแม่นยำของขนาดและความเรียบไม่สูง เหล็กรูปพรรณชนิดนี้ใช้ในงานโครงสร้างทั่วไป เช่น เหล็กเอชบีม เหล็กไอบีม เหล็กราง เหล็กรีด เป็นต้น
  • เหล็กรูปพรรณเชื่อมประกอบ (welded steel) เป็นเหล็กโครงสร้างที่ผ่านการผสิตจากเหล็กโครงสร้างที่ผ่านการเชื่อมต่อ โดยใช้การเชื่อมไฟฟ้า การเชื่อมโดยความถี่สูง การเชื่อมโดยความถี่ต่ำ การเชื่อมโดยความถี่ไมโครเวฟ การเชื่อมโดยความถี่อัลตราโซนิก หรือการเชื่อมโดยความถี่อินฟราเรด เหล็กรูปพรรณชนิดนี้มีความแข็งแรงสูง แต่จะมีความยืดหยุ่นไม่สูง เหล็กรูปพรรณชนิดนี้ใช้ในงานที่ต้องการความแข็งแกร่งสูง เช่น เหล็กเอชบีมเชื่อมประกอบ เหล็กไอบีมเชื่อมประกอบ เป็นต้น

 


 

Visitors: 150,263