รางระบายน้ำเหล็ก
รางระบายน้ำเหล็ก
เหล็ก เป็นแร่ธาตุที่มีความแข็งแรงสูงมาก โดยมันสามารถรองรับแรงกดและกระแทกจากสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหากแรงกดทับหรือแรงกระแทกนั้นไม่มีอนุภาพพิเศษพอที่จะทำลายเหล็กกล้า มันก็แทบจะไม่สามารถทำอะไรเหล็กได้เลย ด้วยเหตุนี้อุตสาหกรรมการผลิตส่วนใหญ่จึงนิยมจะนำแร่เหล็กมาใช้ในการผลิตสินค้าต่างๆ ออกมาจำหน่าย
โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นการใช้งานซึ่งต้องการความทนทานสูง รวมไปถึงการนำมาใช้ผลิตรางน้ำที่แม้ฟังดูจะขัดกัน ซึ่งอาจชวนให้คิดได้ว่าหากมีการนำวัสดุเหล็กมาทำ ก็จะมีจุดอ่อนตรงที่ไม่ถูกกับความชื้นซึ่งทำให้เกิดสนิม แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใดเพราะปัจจุบัน กระบวนการผลิตได้มีความทันสมัยมากขึ้น จนสามารถรับมือกับปัญหาเรื่องสนิมได้อย่างดีเยี่ยม
รางระบายน้ำเหล็ก
ปัญหาน้ำขังเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นภายนอกอาคารซึ่งมีสาเหตุมาจากฝนตกหรือน้ำท่วมขัง หรือปัญหาภายในอาคารที่ต้องมีการทำความสะอาดและระบายน้ำออก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วนอกจากการทำรางระบายน้ำด้วยคอนกรีต แต่ปัจจุบัน รางระบายน้ำเหล็ก ก็ยังเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมด้วยเช่นกัน เนื่องจากรางระบายน้ำเหล็กนั้นมีความแข็งแรง มีน้ำหนักมากพอที่จะตั้งอยู่กับที่ได้โดยไม่ขยับหรือเลื่อนไปไหน เมื่อมีสิ่งเร้ามากระทบ เช่น เมื่อคนเดินผ่าน มีรถแล่นผ่าน และไม่ลอยตัวเมื่อน้ำท่วมขังสูง ที่สำคัญมันยังดูได้มาตรฐาน กว่ารางระบายน้ำแบบคอนกรีต ในด้านความทนทานและอายุการใช้งาน
มาตรฐานรางระบายน้ำเหล็ก
1.ต้องมีความแข็งแรงและปลอดภัย
การเลือกใช้เหล็กที่มีความแข็งแรงและปลอดภัย นอกจากจะต้องตรวจสอบที่คุณภาพของวัสดุแล้ว งานเชื่อมก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตะแกรงมีความแข็งแรงด้วย โดยรอยเชื่อมนั้นจะเป็นรอยเชื่อมเดียวกันทั้งหมด มีความเรียบเนียน ต้องไม่มีรอยที่ทำให้เห็นว่าเป็นการเชื่อมเพียงแค่ให้ตะแกรงเหล็กติดกันเฉย ๆ
2.ต้องผ่านการชุบด้วยสังกะสี
ต้องไม่ใช่เพียงแค่การพ่นหรือการทา แต่ต้องเป็นการนำเหล็กไปชุบในสังกะสี เพื่อยกระดับอายุการใช้งานและคุณภาพในการกันน้ำให้ดีมากยิ่งขึ้น เพราะวิธีการพ่นและการทาสังกะสีนั้น จะมีโอกาสผุกร่อนได้ง่ายกว่าแบบชุบเมื่อเจอกับความชื้นหรือสารเคมี
3.รับน้ำหนักได้ดี
ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักของคน น้ำหนักของรถยนต์ หรือแม้แต่น้ำหนักของรถบรรทุกขนาดใหญ่ ตัวตะแกรงจะต้องสามารถรับน้ำหนักได้ โดยไม่เกิดความเสียหายใดๆ ต่อตัวตะแกรงเหล็ก
4.ได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.)
เพื่อเป็นการรับประกันว่า สินค้านั้นได้ผ่านการผลิตและการทดสอบที่มีมาตรฐาน ก็จำเป็นจะต้องมีตราสัญลักษณ์ มอก. เป็นตัวรองรับคุณภาพของสินค้า เพื่อความมั่นใจของผู้ซื้อที่จะสามารถนำไปใช้งานได้โดยไร้กังวล